[Collection]

เจาะลึก: ทำไมบริษัทที่ได้รับการสนับสนุนจาก Private Equity ถึงเผชิญคลื่นล้มละลาย?

ในขณะที่โลกธุรกิจกำลังเผชิญหน้ากับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจที่รวดเร็ว หลายบริษัทที่ได้รับการสนับสนุนจาก Private Equity (PE) ก็กำลังเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่ไม่เคยมีมาก่อน ทั้งจากอัตราดอกเบี้ยที่พุ่งสูง และพฤติกรรมผู้บริโภคที่ระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น ซึ่งนำไปสู่คลื่นล้มละลายที่กำลังเกิดขึ้นในวงกว้าง

ความท้าทายของบริษัทที่ได้รับการสนับสนุนจาก Private Equity

เมื่อพูดถึงบริษัทที่ได้รับการสนับสนุนจาก Private Equity หรือ PE-backed firms หลายคนอาจเชื่อว่าการมีนักลงทุนสนับสนุนจะช่วยเสริมความมั่นคงให้ธุรกิจ แต่ในความเป็นจริงกลับพบว่า มีจำนวนบริษัทเหล่านี้ที่ล้มละลายเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจในช่วงปีที่ผ่านมา ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น? เราลองมาดูปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อปรากฏการณ์นี้กัน

1. อัตราดอกเบี้ยที่พุ่งสูงสร้างแรงกดดัน

หนึ่งในสาเหตุหลักของความล้มเหลวนี้มาจากอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว การที่ธุรกิจเหล่านี้ถูก ‘Leverage to the hilt’ หรือใช้หนี้ในสัดส่วนสูงเพื่อถือครองสินทรัพย์ ทำให้ต้นทุนการชำระหนี้พุ่งสูงขึ้นจนขาดการควบคุม สำหรับธุรกิจที่ยังไม่สามารถสร้างรายได้ใหม่ได้มากพอ นี่คือปัจจัยที่ทำให้ล้มเหลวได้ง่าย

ในกรณีที่ดอกเบี้ยในตลาดสูงขึ้นเป็นระยะเวลายาว การต้องจ่ายดอกเบี้ยในจำนวนมากยิ่งสร้างภาระทางการเงินให้กับบริษัท ทำให้เงินสดหมุนเวียนของธุรกิจลดลง ซึ่งเมื่อรวมกับการดำเนินธุรกิจที่อาจไม่ยั่งยืน ก็จะทำให้ทางเลือกในการพลิกฟื้นธุรกิจนั้นยากขึ้น

2. พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป

ผู้บริโภคในยุคปัจจุบันมีความระมัดระวังในการใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเนื่องจากปัจจัยทางเศรษฐกิจ เช่น อัตราเงินเฟ้อ การลดรายได้ที่แท้จริง หรือภาวะการว่างงานที่สูงขึ้น นี่เป็นผลให้บริษัทที่เคยสามารถทำกำไรผ่านยอดขายสูงในอดีต ต้องเจอกับยอดค้าขายที่ลดลง หรือสินค้าที่ยอดขายหยุดชะงักในตลาด การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภคนี้ไม่เพียงแต่กระทบกับบริษัทที่พึ่งพาผู้บริโภคโดยตรง แต่ยังส่งผลต่อห่วงโซ่อุปทานในอุตสาหกรรมอื่นๆ ด้วย

3. โครงสร้างทางการเงินที่ไม่ยืดหยุ่น

บริษัทที่ได้รับการสนับสนุนจาก Private Equity มักมีโครงสร้างทางการเงินที่พึ่งพากองทุนการลงทุนเป็นหลัก และมีเงินทุนยืดหยุ่นน้อยลงเมื่อเทียบกับบริษัทขนาดใหญ่ที่มีแหล่งเงินทุนหลากหลาย แนวทางในการดำเนินธุรกิจแบบนี้อาจทำให้บริษัทมีความเสี่ยงสูงขึ้น เพราะการบริหารจัดการที่ไม่สมดุลในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจตกต่ำสามารถทำให้เข้าสู่ภาวะล้มละลายได้เร็วขึ้น

บทสรุปและทางออก

สถานการณ์นี้ชี้ให้เห็นว่าบริษัทที่ได้รับการสนับสนุนจาก Private Equity ควรพิจารณาแนวทางในการบริหารความเสี่ยงทางการเงินใหม่ การลด Leverage หรือหนี้สินให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม การมุ่งเน้นธุรกิจที่ยั่งยืน และการสร้างสมดุลในกระแสเงินสดเพื่อลดภาระทางการเงินในระยะยาวจึงเป็นเรื่องสำคัญ

ในขณะเดียวกัน นักลงทุน Private Equity เองก็ต้องทบทวนกลยุทธ์ในการสนับสนุนธุรกิจ โดยเฉพาะในแง่ของการเลือกลงทุนในอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพเติบโตสูง และปรับโครงสร้างกิจการให้ยืดหยุ่นเพื่อรองรับความท้าทายทางเศรษฐกิจในอนาคต

อย่าลืมว่าการเข้าใจความเสี่ยงและเตรียมพร้อมรับมือนั้น เป็นสิ่งที่จะช่วยให้ธุรกิจสามารถผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปได้ และเพื่อให้มั่นใจว่าบริษัทจะสามารถฟื้นตัวกลับมาได้ในวันข้างหน้า

🔍 ทำไมบริษัทที่ได้รับการสนับสนุนจาก Private Equity (PE-backed firms) ถึงเจอกับคลื่นล้มละลาย? สาเหตุมาจากดอกเบี้ยที่พุ่งสูง ผู้บริโภคที่ระมัดระวังการใช้จ่าย และโครงสร้างทางการเงินที่ขาดความยืดหยุ่น มาอ่านบทวิเคราะห์กัน 📈 อ่านต่อได้ที่นี่!