การเผชิญหน้ากับภาษีศุลกากรจากสหรัฐฯ หลายประเทศเริ่มจับมือทำข้อตกลงการค้าทวิภาคีเพื่อรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับทิศทางใหม่ของการค้าโลกได้ที่นี่!

ทรัมป์กระตุ้นการแข่งขันด้านข้อตกลงการค้าเพื่อตอบโต้ภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ: แนวโน้มการจับมือทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น

[Collection]

ทรัมป์กระตุ้นการแข่งขันด้านข้อตกลงการค้าเพื่อตอบโต้ภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ: แนวโน้มการจับมือทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น

เมื่อสหรัฐอเมริกาภายใต้การนำของโดนัลด์ ทรัมป์กลับมาใช้ภาษีศุลกากรที่มีบทบาทสำคัญในเวทีการค้าโลก หลายประเทศจึงเร่งเจรจาข้อตกลงการค้าทวิภาคี เพื่อรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ และหาวิธีในการตอบโต้ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการดำเนินนโยบายของสหรัฐฯ

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา บทบาทของสหรัฐฯ ในฐานะผู้นำการค้าโลกเปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะในระหว่างการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งใช้นโยบายปกป้องผู้ผลิตในประเทศด้วยการกำหนดภาษีศุลกากรกับสินค้านำเข้าจากหลายประเทศ ทั้งจีน ยุโรป และแม้แต่เพื่อนบ้านของสหรัฐฯ อย่างแคนาดาและเม็กซิโก

ภาษีศุลกากรเช่นนี้ไม่เพียงแต่สร้างแรงกดดันการค้าระหว่างประเทศ แต่ยังเปิดโอกาสให้หลายประเทศเริ่มพิจารณาแสวงหาข้อตกลงการค้าทวิภาคีที่ไม่ต้องพึ่งพาสหรัฐฯ มากเกินไป ตัวอย่างที่เด่นชัดคือ ญี่ปุ่นที่เร่งเจรจากับอังกฤษเพื่อขยายความร่วมมือหลังจาก Brexit หรืออินเดียที่จับมือกับออสเตรเลียเพื่อสร้างพันธมิตรใหม่

เหตุผลที่หลายประเทศเริ่มใช้กลยุทธ์นี้:

  1. เพื่อลดผลกระทบจากนโยบายการค้าของสหรัฐฯ การขึ้นภาษีของสหรัฐฯ ทำให้คู่ค้าจำนวนมากต้องปรับปรุงกลยุทธ์ เพื่อหาสมดุลทางเศรษฐกิจและลดการพึ่งพาสหรัฐฯ
  2. สร้างเครือข่ายทางการค้าที่มั่นคงกว่าเดิม ข้อตกลงการค้าทวิภาคีช่วยให้ทั้งสองฝ่ายสามารถเจรจาข้อกำหนดที่ตอบโจทย์ได้ดี และลดความยุ่งยากที่มาพร้อมพันธมิตรมากมาย
  3. เพิ่มศักยภาพการแข่งขันในตลาด การเจรจาเหล่านี้ช่วยขยายตลาดสินค้าและบริการ สร้างโอกาสใหม่ๆ โดยไม่ต้องแข่งขันในเงื่อนไขที่ถูกกำหนดโดยประเทศชั้นนำเพียงฝ่ายเดียว

ผลที่ตามมา:

  • สำหรับสหรัฐฯ การใช้นโยบายที่เน้นภาษีศุลกากรอาจทำให้อิทธิพลลดลงในระยะยาว เมื่อหลายประเทศสร้างเครือข่ายทางการค้าใหม่โดยไม่ต้องพึ่งพาตลาดอเมริกันมาก
  • ในระยะสั้น จีน ยุโรป และภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก อาจมองหาความร่วมมือการค้าให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น เช่น RCEP (Regional Comprehensive Economic Partnership) ที่กลายเป็นกลุ่มความร่วมมือขนาดใหญ่ในพื้นที่

บทสรุป

การแข่งขันที่เพิ่มขึ้นในด้านการเจรจาการค้าทวิภาคีสะท้อนถึงรูปแบบใหม่ในภูมิทัศน์เศรษฐกิจโลก ประเทศต่างๆ เริ่มตระหนักถึงความสำคัญของการมีพันธมิตรที่หลากหลาย เพื่อรองรับความเสี่ยงทางการค้าและเศรษฐกิจในอนาคต การเคลื่อนไหวนี้อาจเปลี่ยนแปลงภูมิสถาปัตยกรรมทางเศรษฐกิจของโลกอย่างชัดเจนในทศวรรษหน้า

การเผชิญหน้ากับภาษีศุลกากรจากสหรัฐฯ หลายประเทศเริ่มจับมือทำข้อตกลงการค้าทวิภาคีเพื่อรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับทิศทางใหม่ของการค้าโลกได้ที่นี่!